มาทำความเข้าใจเรื่องธุรกิจเครือข่ายกัน

ธุรกิจเครือข่าย เป็นธุรกิจที่หลายๆ คนอาจไม่ชอบทั้งที่ ยังไม่เข้าใจ หรือรู้ว่าจริงๆ แล้วคืออะไร ธุรกิจเครือข่ายจริงแล้วมีข้อดีเยอะมากครับ  และแน่นอนก็ต้องมีข้อด้อยด้วย เพื่อนๆ คนใดมีความเห็นเป็นอย่างไรเชิญแลกเปลี่ยนได้เรยครับ  เพื่อทำให้เรามีความเข้าใจเกี่ยวกับธุรกิจเครือข่ายมากขึ้น  และอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีอีกทางสำหรับชีวิตเรา สำหรับผมที่ชอบมากก็คือธุรกิจเครือข่ายทำให้เรา ได้รายได้แบบ passive income ครับ หลายๆ คนคงเคยอ่านหนังสือพ่อรวยสอนลูกหรือเงินสี่ด้าน มาบ้างแล้วครับ คร่าวๆ คือ model การหารายได้ของเรา โดยหลักจะแบบเป็น 2 ด้านคือ ด้านซ้าย active income เป็นการทำงานที่ต้องเอาแรง  เวลาของเราไปแลก เช่น ลูกจ้าง พนักงาน หรือธุรกิจ ส่วนตัวขนาดเล็ก(ไม่สามารถทิ้งธุรกิจไปไหนได้นานๆ ) ด้านขวา passive income เป็นการทำงานที่ไม่ต้อง เอาแรงหรือเวลาของเราไปแลก แต่ใช้ทรัพย์สินก่อให้เกิด รายได้(นอนอยู่เฉยๆ ก็ได้เงิน) เช่น มีหุ้นอยู่ในบริษัทฯ ใหญ่  เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ทางปัญญา เป็นเจ้าของอพาร์ตเม้นห้องเช่า  หรือเป็นนักลงทุน แน่นอนครับถ้าเราเลือกได้ใคร ๆ ก็อยากได้รายได้ แบบฝั่งขวาครับ แต่สั่งเกตุดูแต่ละอย่างต้องใช้ทุนเยอะทั้งนั้น แต่ครับ ธุรกิจเครือข่ายสามารถให้รายได้เราแบบคนฝั่งขวาได้  ด้วยการลงทุนที่น้อย แต่ลงทุนคือเวลาในช่วงเริ่มทำธุรกิจ  เพื่อการเรียนรู้และขยายธุรกิจเยอะ แต่แน่นอนครับสามารถ มีรายได้แบบฝั่งขวา โดยใช้เวลาไม่มากและมีรายได้แบบฝั่งขวาตลอดไป  จนตกทอดเป็นมรดกได้( ระยะเวลาแล้วแต่แผนธุรกิจ ของแต่ละบริษัทฯ ว่าจ่ายผลตอบแทนมากน้อยเพียงใด ) Anti มากครับ ไม่ชอบขาย พูดไม่เก่ง มีเพื่อนชวนทำแอมเวย์ จำได้ว่ารำคาญมากตามตื้ออยู่นั่นและ อะไรหนักหนา แต่ก็หลุดเข้ามาในธุรกิจนี้จนได้ แต่พอหลุดเข้ามาแล้วไม่อยากออกไปไหนเลยครับ ธุรกิจนี่คือ คานผ่อนแรงดีดีนี่เอง ไม่มีการเอาเปรียบ มีเเต่แต่ win-win ทั้งคู่ครับ สำหรับหนังสือที่น่าอ่านนะครับ -พ่อรวยสอนลูก -เงินสี่ด้าน -โรงเรียนสอนธุรกิจ ทั้งสามเล่มของโรเบิร์ตคิโยซากิ นอกจากจะทำให้เข้าใจ ฃธุรกิจเครือข่ายมากขึ้นแล้ว ยังได้รับความรู้ในการใช้ชีวิต  การบริหารเงิน การวางแผนการเงินในอนาคตด้วยครับ ปล.เห็นไหมครับขนาดแนะนำแล้วไม่ได้ค่าคอมมิชั่น แต่ของมันดีก็ยังแนะนำ มันเป็นธุรกิจที่ดีนะคะ สำหรับคนอื่นที่เค้ามองว่าไม่ดีแล้ว  ทั้งๆที่เค้าก้อยังไม่ได้เข้ามาศึกษา ไม่ได้รู้ข้อมูลที่แท้จริงแล้วว่าไม่ดีเนี่ย  น่าเบื่อค่ะ อย่าไปสนใจเลย ธุรกิจเราเหมือนเราเป็นหมอ คอยดูเเลผู้ป่วย เทคแคร์ ศึกษาข้อมูลเพิ่มขึ้นทุกวันๆ และที่สำคัญก้อคือ การสอนให้คนอื่นมีรายได้แบบเรา  ไม่เหมือนครูที่สอนในโรงเรียน สอนไปทั้งๆที่ไม่รู้ว่านักเรียนจะมีรายได้ได้ยังไง  แต่ก้อมีความรู้ไว้ประดับหัวน่ะค่ะ มันก้อดีนะคะ  แต่การสอนคนให้ทำมาหากินได้ ดิฉันว่ามันเป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่กว่าค่ะ ธุรกิจเราประเสิรฐจริงๆค่ะ  Unicity!! Always make life better ค่ะ ^^ สุดยอดไปเลยครับ ดีครับ มาแชร์ความคิดเห็นกัน ก็เหมือนในหนังสือ "พ่อรวยสอนลูก" ที่ให้ข้อคิดไว้ว่า พ่อรวยสอนให้ลูกใช้เงินทำงาน พ่อจนสอนให้ลูกเรียนสูงๆ  เพื่อมาทำงานประจำที่คิดว่ามั่นคงเพื่อเงิน ทุกคนล้วนเรียกหาอิสรภาพทางการเงิน แต่ถ้ายังคิดเหมือนเดิม  ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง บางคนเข้าใจธุรกิจเครือข่ายว่าเป็นธุรกิจที่ต้องขาย ถูกครับ แต่ไม่หมด ธุรกิจเราถ้าจะต้องขาย ก็ขายวิสัยทัศน์ของธุรกิจครับ เมื่อก่อนผมเกลียดการขายมาก แต่พอได้ศึกษา ถึงเข้าใจว่าเราทุกคนก็ขายกันอยู่ทุกว้น ข้าราชการ มนุษย์เงินเดือน พนักงานประจำ ก็ขายเวลาในชีวิต หมอ ทนาย ก้ขายความสามารถส่วนตัว นักการเมือง ก็ขายตัวเองให้สังคม ทุกวันนี้เราขายมาตั้งแต่เกิด แต่ขายอะไรก็เท่านั้น  เครือข่ายตัวอื่นอาจจะต้องขายสินค้าให้มาก มาก  และมากๆ ถึงจะสำเร็จ จึงทำให้คนทั่วไปกลัวเครือข่าย แต่ยูนิซิตี้เพียงแค่ศึกษา หาความรู้ เพื่อให้มีวิสัยทัศน์ แล้วก็ขายวิสัยทัศน์ เคยมีคนพูดว่า ยูนิซิตี้ ให้ขายสินค้า 20% และขายธุรกิจหรือวิสัยทัศน์ 80% แต่สังเกตุดูว่ายังไงก็ต้องขายสินค้า แต่ถ้าลองคิดดูดีดีว่า 20%  เราขายให้ใครบ้าง ตัวเราเอง พ่อ แม่ ครอบครัว  เพื่อให้คนในครอบครัวเรามีสุขภาพดี ก็เท่านั้นเอง (ที่บอกขายให้พ่อแม่ไม่ใช่เอาเงินพ่อกับแม่มาซือนะครับ ซื้อให้พ่อกับแม่ใช้) แต่ถ้าบางคนต้นทุนเริ่มต้นน้อย ก็แนะนำสินค้า  ขายสินค้าให้มากหน่อย ในช่วงที่ยังไม่มีค่าคอมมิสชั่น ก็เท่านั้นเองครับ ช่วงนี้มีการระบาดอย่างหนักของธุรกิจเครือข่ายยี่ห้อดัง หลอกเพื่อนผมไปทั้งกลุ่มว่าจะจ้างให้ไปทำเวบไซต์ เพื่อนผมถามย้ำเเล้วย้ำอีกว่า ไม่ใช่บริษัท _ _ _ _ _ เเน่น่ะ เค้าก็บอกว่าไม่ใช่ เเต่พอไปถึงจริงกลับกลายเป็น บริษัท _ _ _ _ _ ซะงั้น ทำเอาเพื่อนผมรู้สึกไม่ดีกับคนที่ทำธุรกิจเครือข่ายไปเลย และคิดว่าตัวเองก็ต้องหลอกคนอื่นเข้าไปฟังเป็นทอดๆไป อยากให้ทำความเข้าใจน่ะครับว่า ตัวธุรกิจเครือข่ายมันเป็นธุรกิจที่ดีมากๆ  เเต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับตัวผู้นำด้วย ว่า จะพาองค์กรไปในรูปแบบไหน ผู้นำของ Unicity คุณโจ ชวิช กิม นั้นชัดเจนมากครับ สอนให้พวกเราขายค่า Y ให้กับผู้มุ่งหวังอย่างตรงไปตรงมา  และชี้โอกาสให้เห็นความเป็นไปได้ในอีก 5-10 ปีข้างหน้าว่าธุรกิจไหนจะบูม ไม่มีการหลอกหลวงและแอบแฝงใดๆทั้งสิ้น หากต้องไปหลอกคนอื่นมาฟัง ผมคนนึงนี่เเหละครับ  ที่ทำไม่ได้เเน่นอน และไม่ขอทำด้วย และสิ่งที่ตามมาก็คือ ผู้คนกลัวที่จะทำ เพราะคิดว่าต้องไปง้อเพื่อน  กลัวเพื่อนไม่คบ ก็เเน่ล่ะครับ เพราะว่าบางบริษัทนั้นต้องมีสายงา นถึง 20 กว่าสายในการขึ้นตำแหน่งสูงสุด เเต่ unicity ใช้เพียงเเค่ 3 สายงานเท่านั้นในการขึ้นตำแหน่งสูงสุด เพราะฉะนั้นใน Unicity คนไหนไม่ใช่เราก็ข้ามครับ เพราะเรา ไม่ต้องใช้คนเยอะ ขอเเค่คนที่คิดเหมือนเรา  พูดเหมือนเรา ทำเหมือนเรา เเค่ 3 คนเท่านั้น ปล.เเต่ถ้าหากคุณทำไปเรื่อยๆ คุณเองเเหละครับ  ที่จะไม่คบเพื่อนเก่าๆ ที่มีวิสัยทัศน์เก่าๆ  เป็นพวกลุงตัดต้นไม้ และมนุษย์เงินเดือน เพราะคุณต้องสร้างรั้วบวกให้กับตัวเอง หาคนที่คิดบวก  ทำบวก มารายล้อมรอบตัวคุณ เพราะ 5 คนที่คุณสนิทที่สุดจะเป็นตัวชี้ความมั่งคั่งของคุณ คุณจะ model คนรอบๆข้างคุณโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นอยากเป็นเหมือนใคร  อยากเป็นอย่างใคร อยากมั่งคั่งเหมือนใคร จงอยู่ใกล้ๆคนๆนั้นเอาไว้ครับ ผมเป็นคนนึงที่อดีตไม่เปิดรับธุรกิจประเภทนี้เลย พ่อผมเคยทำที่บริษัทนึง  สมัยแรกๆมา 7 ปี ไม่ประสบความสำเร็จ (ไม่ทราบสาเหตุ)  สรุปก็คือ anti 100%  มาวันนึงได้ไปฟังแผนการตลาดของ บริษัทหนึ่ง เข้ามาไทยได้ 2 ปี เขาพูดเรื่องเงินสี่ด้านเหมือนกัน  ก็ยังงงๆ แต่ก็ยังไม่เปิดใจ สาเหตุหลักเพราะ product  เขาไม่เวิร์คด้วยล่ะ เรายังไม่อยากทาน แล้วจะกล้าไปบอกคนอื่น ให้ทานไหมเนี่ย แต่ก็รู้มาตลอดนะ ว่าทำงานกินเงินเดือนยังไงก็ไม่รวย  และหยุดทำงานไม่ได้ แต่ก็ต้องทำ ก็เลยตั้งหน้าตั้งตาทำงานตลอดเพื่อ อนาคตที่ดี มีเงินเดือน+ค่าCom ประมาณ50,000.-/เดือน จนมาวันนึง ได้มีโอกาสมานั่งคุยแผนการตลาดUNICITYกับรุ่นน้องที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง  เขาบอกว่าอยากเกษียณภายใน 2-4 ปีไหม...งง ทันที  คิดอย่างเดียวแล้วเวลาที่เหลือจะทำอะไร ถ้าไม่ให้ทำงาน  ก็นั่งคุยไปเรื่อยๆจนจบ ก็ยังมึนๆแต่ก็เริ่มเปิดใจเพราะชอบสินค้า  เพราะมีการวิจัยที่น่าเชื่อถือมาก น้องเขาแนะนำว่า ถ้าอยากรู้วิธีการเกษียณเร็วให้อ่านหนังสือเรื่อง เงินสี่ด้าน,  Business School หลังจากนั้นก็ไปที่บริษัทเข้าห้อง ป.1  ออกมาซื้อชุด BOP วันรุ่งขึ้นปิด Fast แล้วเริ่มลงมือทำ  ทำตามupline น้องสาวผมบอกทุกอย่าง คืออยากพิสูจน์ว่าได้จริงไหม ตาม KPI ผ่านไป 6 เดือน ตอนนี้ลาออกจากงานมา Full Time เรียบร้อยครับ  ถ้าท่านใดที่ยังสงสัยในธุรกิจนี้อยู่  ให้รีบหาข้อมูลมาศึกษาให้เร็วที่สุด อย่าปล่อยให้ความสงสัยนี้มันค้างในใจไว้นาน  เพราะคนที่เสียโอกาสคือตัวคุณเอง และที่สำคัญเลือกบริษัทให้ถูกต้องด้วย สรุป ที่ UNICITY 2 ไม่เกิน 4 ปี จริงๆครับ ธุระกิจออนไลน์ทุกวันนี้ มีทั้งข้อดีและข้อเสีย มีทั้ง บริษัทที่ดี  และไม่ดี มีคนๆนึงชวนเราไปฟังการสัมมนาของบริษัทนึง  ฟังไปฟังมาเด๋วก้อมีคนตบมือให้ เด๋วก้อร้องเสียงดัง เด๋วก้อประสานมือกัน ก้อเลยทำให้เราคิดว่า  คนพวกนี้เปนใคร มาทำอะไร เหมือนคนบ้า หน้าม้ารึปล่าว  เราก้อเริ่มไม่แน่ใจว่า จะมาแนวไหน ก้อเลยยังไม่เชื่อสักเท่าไหร่ แต่พออยู่ไป ฟังไปหลายๆวันเข้า  ก้อเริ่มสงสัยว่า เอ๊!!! มันจะได้จิงหรอ เพราะเราเกทเรื่อง  เงินสี่ด้าน ระบบข้าราชการ ระบบต่างๆ กันออกไป เราก้อเลยนึกถึงคนๆนึง ซึ่งเปนพ่อของเราเอง ว่าทำไมมันตรงกั นกับที่เขาสอนเราว่า เกิดมา---พึ่งพา--- 10 - 25 ปี  พากเพียร 26 - 60 ทำงานเก็บเงิน--หลังจากนั้นก้อพักผ่อน แต่ทว่า ถ้าเกิดวันนึง ไม่เปนแบบที่เราคิดไว้ก้อคือ พลั้งพลาด  แล้วจะทำยังไง ทำอะไรก้อไม่ได้ พักผ่อนก้อไม่ได้ แล้วระหว่างที่  เกบเงินน่ะ จะเกบได้สักเท่าไหร่เชียว บอกให้ก้อได้ว่า ใครที่อยากเปนข้าราชการ เหนงินเดือนน่ะ อยากมากที่สุดก้อ 3หมื่นว่ามั้ย  แล้วถามก่อนว่า พอใช้หรือปล่าว ส่วนใหญ่คนที่เห็นแก่ตัว มักจะตอบว่า อืม ก้อ โอเคนะ แต่ขอถามนะว่า ส่งให้แม่เดือนเท่าไหร่  ค่าไปโรงเรียนลูกล่ะ ค่าใช้จ่ายประจำวันล่ะ  เคยเหลือเกบบ้างมั้ย ฟันธงได้เลยว่าแทบจะไม่มี หรือ ไม่มีเลย  และอาจจะเป็นหนี้เข้าด้วยซ้ำ ว่ามั้ย  ก้อเลยกลับ มานอนคิดแล้วคิดอีกว่า บริษัทนี้ มันทำให้เรา "มีชีวิตที่ดีกว่า"  ได้จิงหรือ จากกนั้นก้อเริ่มจะเปิดใจมากขึ้น ศึกษามากขึ้น   เข้างานฟังชั่นต่างๆ เช่น sopp(ซุปเปอร์ โอพีพี) อืม ก้อ เกทละ โอเค สมัคร สมัครไอ้ตรงที่ว่า น้องอยากมี รายได้มั้ย  อยากมีเวลามั้ย เหอะๆ ไม่คิดไม่ฝันว่า สิ่งที่ไม่ชอบ  แอนตี้สุดๆ แต่เราดันกลับมาทำเองซะงั้น ^^